“ถิรไทย” วางโรดแมปธุรกิจ 3 ปี เตรียมกวาดรายได้หม้อแปลงไฟฟ้า 3,000  ล้านบาท

บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้นำตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า และอุตสาหกรรมด้านพลังงานรายใหญ่ของประเทศ วางโรดแมป 3 ปี บุกตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ หวังกวาดรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาท รับเทรนด์กลุ่มลูกค้าต้องการสินค้าคุณภาพสูง ชูความพร้อมหลังได้

งานหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ระดับ 525 kV จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ขณะที่ผลประกอบการสิ้นปี 66 มั่นใจทำได้ตามเป้ากวาดรายได้รวม 2,314 ล้านบาท โต 20% ลุ้นปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง หลังตุน Backlog กว่า 1,979 ล้านบาท

            นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด ของคนไทยเพียงแห่งเดียว เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจภายในระยะ 3 ปีข้างหน้าว่า มีแนวโน้มผลการดำเนินงานเติบโตเป็นบวก โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ที่บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมถึง 3,000 ล้านบาท เนื่องจากตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการสินค้ากลุ่มหม้อแปลงขนาดใหญ่และเป็นสินค้าคุณภาพ ซึ่งตรงกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้า และขยายตลาดกลุ่มหม้อแปลงขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น

            “นโยบายของบริษัทฯ เราผลิตหม้อแปลงทุกรูปแบบและทุกขนาด แต่จังหวะการทำตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าไม่เหมือนกัน ที่ผ่านมาตลาดหม้อแปลงขนาดกลางและเล็กมีสัดส่วนมาก โดย 5 ปีที่ผ่านมาเราลงทุนซื้อไลเซนส์จากซีเมนต์ เพื่อผลิตหม้อแปลงขนาดใหญ่ ปัจจุบันได้รับการยอมรับแล้วว่าสินค้าของเรามีมาตรฐาน และคุณภาพระดับโลก ทำให้พร้อมที่จะทำตลาดและสร้างการเติบโตได้ในระยะ 3 ปีข้างหน้า ประกอบกับเทรนด์ลูกค้ามีความต้องการสินค้าคุณภาพสูง ซึ่งเราถือเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียว ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า ว่ามีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับระดับโลก” นายสัมพันธ์ กล่าว

            ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี  2567 บริษัทฯ คาดว่าจะยังคงรักษาการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2566 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการเติบโตของทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) มีลูกค้าหลักเป็นหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) บริษัทเอกชนทั้งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัททั่วไป ตลาดต่างประเทศทั่วโลก ธุรกิจการให้บริการ รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ด้วย และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง (Non-Transformer) อาทิ รถกระเช้า, รถเครน, ถังหม้อแปลงไฟฟ้า และแบตเตอรีลิเธียม 

            โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าติดตามงานประมูลอย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมอีกกว่า 14,922 ล้านบาท ซึ่งปกติจะมีโอกาสประสบความสำเร็จจากการได้งานประมาณ 20% ที่จะเข้ามาเป็นรายได้ในปีหน้าด้วย นอกจากนี้ ยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปี 2567 อีก 1,979 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 1,792 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงอีก 187 ล้านบาทด้วย

            นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า แม้ทิศทางและแนวโน้มตลาดหม้อแปลงในปี 2567 จะมีทิศทางเป็นบวก แต่ภาวะการแข่งขันในตลาดยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งตลาดภายในประเทศถือว่าบริษัทฯ มีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งในตลาด เนื่องจากจับตลาดกลุ่มลูกค้าที่มุ่งเน้นสินค้าคุณภาพสูง และถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มสินค้าดังกล่าว ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดในปีหน้า ยังคงเน้นการทำตลาดด้วยการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้า ส่วนตลาดต่างประเทศในปีหน้า บริษัทฯ  จะให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ตามทิศทางความต้องการของลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมายอดขายตลาดต่างประเทศมีสัดส่วนลดลง เพราะบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้ ในอนาคตเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

            สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 ยังคงมีแนวโน้มเติบโตเป็นบวก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ภาพรวมในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,314 ล้านบาท เติบโตในอัตรา 20% จากปี 2565 ที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,720 ล้านบาท โดยรายได้ในปีนี้จะมาจากกลุ่มธุรกิจหม้อแปลง จำนวน 2,120 ล้านบาท และกลุ่มที่ไม่ใช่หม้อแปลงอีก 194 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 1,387 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้กลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 1,298 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า จำนวน 89 ล้านบาท              “แนวโน้มในไตรมาส 4 ภาพรวมมีทิศทางเติบโตทีดีค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะไตรมาส 4 บริษัทฯ ต้องทำรายได้อีกกว่า 700 ล้านบาทเท่านั้น และปัจจุบันก็มี Backlog ที่จะรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายอีก 772 ล้านบาท จึงคาดว่าผลประกอบการโดยรวมน่าจะเป็นบวกตามที่วางเป้าหมายไว้” นายสัมพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย

สดช. จับมือ สคส. เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐฯ GPPC สร้างความรู้ สร้างสมดุลใช้ประโยชน์-รักษาสิทธิ์ข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเท่าเทียม

หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ Government Platform for PDPA Compliance: GPPC สร้างมาตรฐานรองรับให้การดำเนินงานในหน่วยงานภาครัฐเกิดความสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA ในทุกมิติ พร้อมดำเนินกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจ ประเมินผล และมอบรางวัลให้หน่วยงานที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งสร้างสมดุลการใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเท่าเทียม

       วันนี้ (15 ธันวาคม 2566) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานมอบโล่รางวัล สำหรับหน่วยงานนำร่องพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance: GPPC) และกล่าวปาฐกถาแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัล โดยมีนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายธีรวุฒิ ธงภักดิ์
รองเลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วม ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการคอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

        นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ด้วยพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ผลลัพธ์จากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยตัวกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคล ให้สมดุลกับการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการควบคุมจากกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

“การบังคับใช้กฎหมาย PDPA จะช่วยให้หน่วยงานดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีและช่วยลดภาระหน้าที่รับผิดชอบแก่หน่วยงานต่าง ๆ สองหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คือ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ Government Platform for PDPA Compliance: GPPC
ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับให้ทุกการดำเนินงานในหน่วยงานภาครัฐเกิดความสอดคล้องกับกฎหมาย PDPA ในทุกมิติ”
นายประเสริฐฯ กล่าวทิ้งท้าย

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในทุกกิจกรรมของการอบรมฯ ยังได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานเป้าหมายร่วมส่งชิ้นงานเพื่อร่วมรับการประเมินผลเพื่อวัดความเข้าใจในการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานแพลตฟอร์มภาครัฐ รวมถึงมอบรางวัลเพื่อเป็นคำขอบคุณและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่หน่วยงานที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งได้มีการประเมินตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 15 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา และมีการมอบรางวัลรวม 3 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย รางวัล Best Practice หน่วยงานที่มีการดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดีเลิศ โดยดำเนินการครบถ้วนทุกรายละเอียดและมีผลคะแนนสูงสุด จำนวน 10 หน่วยงาน รางวัล Compliance Award หน่วยงานที่มีการดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลครบถ้วน จำนวน 43 หน่วยงาน และสุดท้าย รางวัลประกาศนียบัตรชมเชย ให้แก่หน่วยงานที่ได้มีความพยายามและอยู่ในช่วงริเริ่มดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน 72 หน่วยงาน
“โครงการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐฯ สดช. ได้มุ่งมั่นดำเนินการขึ้นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA  เพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยการสร้างพื้นฐานความเข้าใจในกฎหมายทั้งในมุมของประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความจำเป็นต้องบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมากตามภารกิจหน้าที่ที่มี เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคุ้มครองสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างมั่นคงและปลอดภัย พร้อมช่วยสร้างสมดุลการใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเท่าเทียม และจากนี้ สดช. จะดำเนินการส่งมอบแพลตฟอร์มภาครัฐฯ ให้กับ สคส. ดูแลรับผิดชอบโครงการฯ ต่อไป” นายภุชพงค์ฯกล่าวสรุปในตอนท้าย

ด้าน นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า โครงการฯ ดังกล่าว ยังได้ดำเนินกิจกรรมสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่หน่วยงานภาครัฐจำนวนกว่า 200 หน่วยงาน ในระยะเวลาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ครอบคลุมกิจกรรมรวม 3 ด้าน คือ

  • กิจกรรมให้คำปรึกษาด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทเป็นผู้ควบคุมข้อมูล ให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งด้านกฎหมาย และประสิทธิภาพในการทำหน้าที่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ การจัดทำบันทึกรายการกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล การจัดทำแบบบันทึกการขอความยินยอม รวมถึงการปรับใช้แพลตฟอร์มภาครัฐฯ โดยมีการให้คำปรึกษากับหน่วยงานนำร่อง 3 หน่วยงาน และหน่วยงานเป้าหมาย 202 หน่วยงาน
  • กิจกรรมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส่งเสริมองค์ความรู้ที่ครบวงจร ทั้งการให้ความรู้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, แนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    แนวทางการใช้งานแพลตฟอร์มภาครัฐโดยละเอียด และการจัดทำสื่อการเรียนรู้หลักสูตรการจัดการข้อมูลและ
    การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • กิจกรรมส่งเสริมการใช้บริการแพลตฟอร์มภาครัฐฯ เพื่อให้รองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยอ้างอิงจากหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลภายใต้ PDPA ซึ่งจะมี GPPC ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางที่สามารถสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างครอบคลุม ปัจจุบันประกอบด้วย 4 ระบบ คือ ระบบบันทึกกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระบบบริหารจัดการความยินยอม ระบบจัดการคำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และระบบจัดการแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

โฮมโปร ทุ่มงบ 650 ล้านบาท ผุดสโตร์ใหม่ รุก พท.ทำเลทอง “บางบัวทอง” บนพื้นที่ 9,476 ตร.ม. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

โฮมโปร ทุ่มงบลงทุน 650 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ “โฮมโปร บางบัวทอง” สาขาแห่งที่ 88 ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ทุกความต้องการเรื่องบ้านของคนรุ่นใหม่ บนพื้นที่กว่า 9,476 ตร.ม. สะดวกสบายเรื่องการเดินทาง ใจกลางทำเลเรียลลิตี้ ที่มีกำลังซื้อเติบโตสูง พร้อมจัดเต็มทุกสินค้าและสิทธิประโยชน์ความคุ้มๆ ให้ลูกค้า ดีลแรงเปิดสาขาบางบัวทอง ยิ่งช้อป ยิ่งลุ้น…ช้อปครบทุก 3,000 บาท ลุ้นรับ iPhone 15 Pro รวม 3 เครื่อง / สมาชิกโฮมการ์ด กดปุ๊บ ลดปั๊บ…ฟรี! คูปองส่วนลด รวมสูงสุด 3,100 บาท เฉพาะ 3 วันแรกเท่านั้น! (16-18 ธ.ค. 66) หรือเลือกรับคูปองส่วนลด รวมสูงสุด 800 บาท ผ่าน Line HomePro Connect ตลอดเดือนถึงสิ้นปีนี้ รับสิทธิ์ซูเปอร์คุ้มต่อสำหรับสมาชิกโฮมการ์ด ช้อปครบ 500 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าลดสูงสุด 60% พร้อมคืนกำไรส่งท้ายปี มอบส่วนลด+รับเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมสูงสุดกว่า 103,100 บาท หรือเลือกใช้สินค้าก่อนผ่อนสบายๆ กับ ‘ซื้อปีนี้ จ่ายปีหน้า’ ผ่อน 0% สูงสุด 24 เดือน ทุก ๆ การจ่ายผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม รับส่วนลด+รับเพิ่ม รวมสูงสุด 7% และช้อปสบายกระเป๋าส่งท้ายปี กับสินเชื่อ Homepay ‘ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง’ ใช้แค่บัตรประชาชน สมัครง่าย อนุมัติไว ผ่อนง่ายได้ทุกชิ้น!! เริ่ม 16-31 ธ.ค. 66 นี้ ตั้งเป้ายอดขาย 55 ล้านบาท/เดือน

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เผยว่า “โฮมโปรเดินหน้าเปิดสาขา ‘บางบัวทอง’ ด้วยงบลงทุนกว่า 650 ล้านบาท สร้างสแตนด์อโลนสโตร์ บนพื้นที่กว่า 9,476 ตารางเมตร รวมเอาทุกความต้องการเรื่องบ้านแบบ One Stop Shopping มาไว้บนใจกลางทำเลเรียลลิตี้จังหวัดนนทบุรี สอดรับต่อกำลังซื้อของลูกค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในแหล่งรวมสถานที่ไลฟ์สไตล์ ที่เรียน ที่ทำงาน รวมถึงย่านที่พักอาศัย บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมที่เชื่อมต่อกับเส้นทางเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่) และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย ย่านใจกลางเมืองนี้ นอกจากอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้ว ยังทำให้โฮมโปรแห่งที่ 88 กลายเป็นศูนย์กลางดีมานด์การต่อเติม-ปรับปรุงบ้าน ของลูกค้าทุกระดับ คาดการณ์สโตร์แห่งใหม่นี้ สามารถสร้างยอดขายราว 55 ล้านบาท/เดือน”

โฮมโปร บางบัวทอง ตั้งอยู่ที่ทำเลปากซอยวัดลาดปลาดุก ติดถนนกาญจนาภิเษก รองรับการเดินทางได้หลากหลายเส้นทาง และมีจุดจอดรถรองรับลูกค้าได้กว่า 260 คัน ด้วยการออกแบบภายในเฉพาะตัวที่ผสมผสานแรงบันดาลใจ เพื่อตอบโจทย์สไตล์นักแต่งบ้านรุ่นใหม่และคนรักบ้านทุกเจนเนอเรชั่น ครบ คุ้ม จบ มาไว้ในที่เดียว พร้อมเฉลิมฉลองเปิดสาขาใหม่ต้อนรับชาวบางบัวทอง ด้วยสิทธิประโยชน์จัดเต็ม ยกขบวนสินค้าและของแต่งบ้านช้อปครบ 500 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าลดสูงสุด 60% !! (เฉพาะสมาชิกโฮมการ์ด) พร้อมพลาดไม่ได้ความพิเศษ 16 ธ.ค.66 นี้ วันเดียวเท่านั้น !! 500 ท่านแรก ซื้อสินค้าและร่วมสนุกตอบคำถามเพื่อจับคูปอง …ลุ้นสิทธิ์ซื้อสินค้าราคาพิเศษ จำนวนจำกัด หรือเลือกช้อปคุ้มถึงสิ้นปี สินค้าแลกซื้อในราคาพิเศษ เริ่มต้น 129 บาท และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังราคาเดียว 9,990 บาท อาทิ MITSUBISHI ELECTRIC, SAMSUNG, Hisense ทุกชิ้นจำนวนจำกัด …หมดแล้วหมดเลย !!

ห้ามพลาด! ช้อปที่โฮมโปร บางบัวทอง 3 วันแรก…ลุ้นทุกวัน !! 16-18 ธันวาคม 66 นี้ ซื้อครบทุก 3,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์คูปองชิงโชคท้ายใบเสร็จ 1 สิทธิ์ ลุ้นโทรศัพท์ iPhone 15 Pro ความจุ 128 GB สี Natural Titanium มูลค่า 41,900 บาท จำนวน 3 รางวัล และกดปุ๊บ…ลดอีกหลายต่อ ฟรี! ช้อปครบตามเงื่อนไข รับเลยคูปองส่วนลด รวมสูงสุด 3,100 บาท เฉพาะสมาชิกโฮมการ์ดเท่านั้น !!

พร้อมรับเพิ่มหลายต่อ รวมความคุ้มค่าส่งท้ายปีไว้ที่เดียว !! กับมหกรรมคืนกำไรครั้งใหญ่ แจกจัดเต็มได้ทั้งส่วนลดทั้งเงินคืน เข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมกว่า 103,100 บาท …สมัครสมาชิกใหม่โฮมการ์ด รับคุ้ม 3 ต่อ สมาชิกโฮมการ์ดนำคะแนนในบัตรแทนส่วนลด ลดเพิ่ม 15% พร้อมใช้คู่กับ บัตรโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลดทันที 3% ตั้งแต่บาทแรก รับเครดิตเงินคืน 4% ใช้คะแนนลดเพิ่มอีก 13% !! และกดรับคูปองส่วนลดอีก…ง่าย ๆ ผ่าน HomePro Line Connect รับเพิ่มคูปองรวมมูลค่าสูงสุด 3,100 บาท เพิ่มเติมโปรถูกใจจ่ายสบาย รับสิทธิ์ช้อปปีนี้ผ่อนปีหน้า !! สำหรับสมาชิกโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ ช้อปสินค้าที่สาขาใช้ก่อน 2 เดือน เริ่มต้นผ่อนชำระปีหน้า 0% นาน 12 เดือน หรือใช้สิทธิ์รับช้อยส์ความคุ้มค่าอื่น ๆ จากสถาบันการเงินชั้นนำที่ร่วมรายการ …ผ่อนชำระ 0% ให้นานสูงสุดถึง 24 เดือน !! หรือเลือกอีกทางช้อปง่ายสบายกระเป๋ากับสินเชื่อ Homepay ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง สิทธิใหม่แกะกล่อง สมัครง่ายใช้แค่บัตรประชาชน อนุมัติไว ผ่อนง่าย ได้ทุกชิ้น !!

“นอกเหนือจากสินค้าบ้านและสิทธิประโยชน์มากมายที่ช่วยสร้างประสบการณ์ช้อปได้อย่างครบครัน โฮมโปร บางบัวทอง ยังมีการเติมเต็มความต้องการของคนรักบ้าน ด้วยบริการช่างประจำบ้าน ในการปรับปรุงต่อเติมที่อยู่อาศัยอย่างมืออาชีพในราคาที่จับต้องได้ พร้อมยังมีการเปิดตัวโซนใหม่เอาใจคนรักสัตว์ ‘PET Club’ ที่มีสินค้าเพื่อตัวเล็กและโปรโมชั่นคุ้มค่าไม่ต่างจากของแต่งบ้าน อีกทั้ง โฮมโปรยังสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษให้ลูกค้าได้สัมผัสกับทุกมุมของสโตร์แห่งที่ 88 นี้ ในไลฟ์สดเปิดบ้านกับอินฟลูฯ เรื่องบ้านคนดัง แบม-ปีติภัทร คูตระกูล ในวันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 66 เวลา 11.30-12.30 น. ทาง Facebook : HomePro Thailand และ Line: HomePro

เฉลิมฉลองต้อนรับสาขาใหม่ส่งท้ายปีบนทำเลเรียลลิตี้ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการเรื่องบ้านคนรุ่นใหม่ “โฮมโปร บางบัวทอง” ปากซอยวัดลาดปลาดุก ติดถนนกาญจนาภิเษก เริ่มวันที่ 16 ธันวาคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 นี้ เปิดบริการทุกวัน 08.30-21.00 น. โทร. 02-4816700

สตาร์มาร์ค ร่วมเปิดตัว โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ สุรวงศ์ โรงแรมระดับ 5 ดาว บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร

ณัฐปภัสร์ ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการ นำทีมผู้บริหาร บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด เข้าร่วมแสดงความยินดี ในงานเปิดตัว โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ สุรวงศ์ (Grande Centre Point Surawong Bangkok) โรงแรมระดับ 5 ดาว แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ผสมผสานความสะดวกสบายและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Immerse in Bangkok soul, where culture meets comfort”  ซึ่งได้รับเกียรติจากทีมผู้บริหารบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด(LHMH) สุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ และเมสินี แก้วราตรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พอยต์ สุรวงศ์ เมื่อเร็วๆ นี้

GAC AION ฉลองความสำเร็จ ยอดจองรถไฟฟ้า4,568 คัน ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของแบรนด์รถไฟฟ้า ตอบรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 40 ได้สิ้นสุดแล้วอย่างเป็นทางการ โดย GAC AION ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย กวาดยอดจองทั้งหมด 4,568 คัน ถือเป็นอันดับที่ 4 จากแบรนด์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด และมียอดจองเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ และเรายังได้สร้างสถิติยอดจองสูงสุดรายวัน และสถิติยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ (AION ES) แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของ GAC AION ในตลาดประเทศไทยและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค สร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมีรถรุ่นชูโรงอย่าง AION Y Plus 490 Premium

งาน Motor Expo ในครั้งนี้เรียกได้ว่า GAC AION สร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ ในฐานะแบรนด์รถยนต์ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และมียอดขายสูงอยู่ในระดับต้นๆ ของแบรนด์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด โดย AION Y Plus 490 Premium ไม่เพียงแต่มียอดขายที่เกินความคาดหมายเท่านั้น แต่รถยนต์ซีดานไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะอย่าง AION ES ยังมียอดจอดสูงถึง 850 คัน และมีรายงานอีกด้วยว่า Hyper SSR ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า ยังเป็นรถที่ลูกค้าให้ความสนใจ และมียอดจองในงานถึง 11 คัน จนเป็นที่พูดถึงจากสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่คลั่งไคล้รถยนต์ชาวไทยเป็นอย่างมาก GAC AION เป็นแบรนด์ที่มีคุณสมบัติครอบรอบด้าน ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก

AION Y Plus รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 และในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา GAC AION ได้สร้างสถิติยอดจองในวันเดียวสูงถึง 1,168  คัน โดยมีรถรุ่นไฮไลท์ได้แก่ AION Y Plus 490 Premium ที่ได้เปิดตัวภายในงาน Motor Expo เป็นครั้งแรก  อีกทั้ง AION Y Plus ยังติดอันดับ 2 ใน 10 อันดับรถยนต์ยอดนิยมที่จัดอันดับโดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน Motor Expo

AION Y Plus 490 Premium ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ ด้วยการอัปเกรดออปชั่นจากรุ่น Elite ทั้งหมด 24 รายการ โดยมีออปชั่นไฮไลท์ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอย่าง ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Level 2, ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ และฟังก์ชั่น V2L ที่ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับกิจกรรมนอกบ้านได้ อีกทั้งยังมีการอัปเกรดฟีเจอร์ภายในห้องโดยสาร อย่างระบบระบายอากาศของเบาะคนขับ เบาะข้างคนขับเป็นระบบไฟฟ้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และไฟสร้างบรรยากาศ (ปรับตามจังหวะดนตรี) อีกทั้งยังเพิ่มที่วางแขนตรงกลางสำหรับเบาะหลังอีกด้วย AION Y Plus 490 Premium ถูกดีไซน์ตกแต่งภายนอกและภายในระดับไฮเอนด์ พร้อมความทนทานที่เหนือกว่า จึงทำ AION Y Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาวไทยจับตามอง

AION ES เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ ที่มียอดจองถล่มทลาย โดย AION ES ของ GAC AION เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทางในเมือง AION ES จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย โดยในงาน Motor Expo ครั้งนี้ โกลด์ อินทิเกรท (Gold Integrate) หนึ่งในดีลเลอร์ของ AION Thailand ได้ร่วมมือกับ Evme ในการเซ็นสัญญาสั่งซื้อ AION ES รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ ให้กับลูกค้าจำนวน 850 คัน

สิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ AION ES ทั้ง 850 คันนี้จะได้รับประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ นั่นคือการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกใหม่ให้ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบไฟสูงอัจฉริยะและออปชั่นอื่นๆ ที่มีการอัปเกรดรวม 10 รายการ เพื่อเป็นการตอกย้ำคุณภาพของ AION ES เราจึงมอบการบริการที่เหนือกว่าให้กับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของไทย 6 ประการ ได้แก่ สะดวกสบายที่มากกว่า, ขับขี่ได้ที่ไกลกว่า, สบายใจในการใช้งานที่มากกว่า, ประหยัดเงินได้มากกว่า, มืออาชีพมากกว่า และรู้ใจมากกว่า AION ES ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อส่งเสริมและเป็นแรงกระตุ้นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย รวมถึงยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ รถยนต์ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าของ GAC AION อย่าง Hyper SSR ยังเป็นรถที่ผู้คนให้ความสนใจภายในงานเป็นอย่างมาก โดยมียอดจองภายในงานถึง 11 คัน สร้างเสียงฮือฮาอย่างมากทั้งในส่วนของสื่อมวลชนและผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับรถยนต์รุ่นไฮเอนด์ของ GAC AION และเป็นการแสดงศักยภาพสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 1.9 วินาที มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,225 แรงม้า ประตูปีกแบบปีกผีเสื้อ เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ภายนอกทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ซึ่งรถรุ่นนี้ได้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจจากแฟนๆ รถยนต์และผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน AION Thailand ได้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตรถยนต์ในประเทศไทย รวมไปถึงการขยายตัวแทนจำหน่าย และการบริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของ AION Thailand ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษEEC จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ด้วยเงินลงทุนรวมสูงถึง 2,300 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 คัน/ปี โดยการก่อสร้างนี้จะเป็นออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งการก่อสร้างในช่วงแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567 ถือเป็นการยกระดับกำลังการผลิตและแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีในประเทศไทย

ในด้านการจำหน่ายและเครือข่ายการให้บริการ AION Thailand วางแผนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีการอนุมัติศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการจำนวนทั้งสิ้น 50 แห่ง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถยนต์ที่มีคุณภาพและมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ GAC AION ยังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบบริการหลังการขายที่ไร้กังวล ด้วยนโยบายการประกันคุณภาพชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมการบริการคุณภาพสูง โดยในขณะนี้ศูนย์สต็อคอะไหล่ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถจัดส่งอะไหล่ได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยราคาที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการบริการให้กับลูกค้า

พร้อมกันนั้น GAC AION กำลังวางแผนจัดสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จในประเทศไทย โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีการสร้างสถานีชาร์จได้จำนวนทั้งหมด 180 แห่ง เพื่อรองรับการคมนาคมของไทยอย่างครบวงจรและสร้างความมั่นใจในการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ในฐานะผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า GAC AION ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากภายในงาน Motor Expo 2023 ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการยึดรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดโลกในอนาคต  การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของ GAC AION เป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไปข้างหน้า และเรายังเป็นส่วนหนึ่งในแรงขับเคลื่อนของการพัฒนาสู่การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียน

“โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์” แอ่วเหนือ.. ชวนช้อปแต่งบ้านเพลินม่วนอ๊กม่วนใจ๋ ส่งท้ายปี ลดสะท้านรับลมหนาว!! เริ่ม 16-24 ธ.ค.66 นี้

โฮมโปร ขนขบวนความคุ้มช้อปม่วนเรื่องบ้านเรื่องไลฟ์สไตล์ จัดงาน ‘โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์’ เทศกาลความสุขส่งท้ายปีเพื่อพี่น้องชาวเหนือ คืนกำไรลดสะท้านรับลมหนาว รับเพิ่มเงินคืนจัดเต็มเข้าโฮมโปรวอลเล็ตสูงสุดกว่า 100,000 บาท !! พร้อมกระหน่ำดีลคุ้มต่อเนื่องกับสิทธิประโยชน์หลายต่อจากสถาบันการเงินชั้นนำ ลด+รับเพิ่ม สูงสุด 7% เมื่อใช้ผ่านบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม อีกทั้งผ่อนสบายกับสิทธิพิเศษดีๆ “ซื้อปีนี้ จ่ายปีหน้า” ผ่อน 0% นาน 12 เดือน หรือสูงสุด 24 เดือน สำหรับสมาชิกโฮมการ์ด ใช้คะแนนรับส่วนลดเพิ่ม 15% และกดปุ๊บรับเลย คูปองส่วนลดสูงสุดถึง 2,500 บาท ผ่าน HomePro Line Connect พร้อมชวนรักษ์โลกไปด้วยกัน นำของเก่าแลกรับส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท เพื่อช้อปของใหม่ ในแคมเปญ ‘แลกเก่า เพื่อโลกใหม่’ เฉพาะที่งานเท่านั้น 9 วันเต็ม 16-24 ธ.ค. 2566 นี้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า งาน ‘โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์’ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เราตั้งใจดึงเอาบรรยากาศเทศกาลแฟร์ที่คุ้นเคย ให้กลับมาสร้างความสุขส่งท้ายปี 2566 อีกครั้ง พร้อมกับยกขบวนสินค้าเรื่องบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมายในราคาคุ้มค่า อัดแน่นแรงบันดาลใจครบทุกไลฟ์สไตล์ ถูกใจคนรักบ้าน สามารถกระตุ้นแรงจับจ่ายของคนในพื้นที่ สร้างความครึกครื้นให้กับเมืองเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงได้ตลอด 9 วันเต็มๆ

สำหรับงานแฟร์เรี่องบ้านส่งท้ายปีที่คนเหนือต้องมา เทศกาล “โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์” มาพร้อมกับโปรลดสะท้านรับลมหนาว มาให้ช้อปม่วนอ๊กม่วนใจ๋ถึงถิ่น ด้วยช้อปพิเศษคืนกำไรจัดเต็มกว่า 100,000 บาท !! ..เข้าโฮมโปรวอลเล็ต และเตรียมขนความคุ้มกลับบ้านสำหรับสมาชิกโฮมการ์ด รับส่วนลดก่อนใครที่ HomePro Line Connect กดปุ๊ปรับเลย..คูปองส่วนลดรวมมูลค่าสูงสุด 2,500 บาท (จำกัด 1 สิทธิ์/สมาชิก/ตลอดรายการ) และใช้คะแนนในบัตรเท่ายอดซื้อขั้นต่ำ 1,000 คะแนน แลกส่วนลดเพิ่มได้อีก 15% (จำกัด 50,000 คะแนน/หมายเลขสมาชิก/ตลอดรายการ) หรือเลือกช้อปสินค้าทีวี แอร์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าในงาน รับส่วนลดเพิ่มรวมสูงสุดอีก 15% พร้อมสะสมยอดซื้อแต่ละวันครบตามเงื่อนไข รับเพิ่มเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ตสูงสุด 100,000 บาท !!

เร่งอุณหภูมิกระหน่ำดีลคุ้มต่อเนื่อง รับสิทธิประโยชน์หลายต่อจากสถาบันการเงินชั้นนำ อาทิ สมาชิกบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ได้ส่วนลด+รับเพิ่ม 3 ต่อ รวมสูงสุด 7% ต่อที่ 1 ลดทันที 3% ตั้งแต่บาทแรก ต่อที่ 2 รับเครดิตเงินคืนเข้าโฮมโปรวอลเล็ต รวมสูงสุด 4% และต่อที่ 3 แลกคะแนนเท่ายอดชำระตามเงื่อนไข ลดเพิ่ม 13%, สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตกรุงศรี คุ้มค่า 2 ต่อ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 4% ผ่าน UCHOOSE และใช้คะแนนลดเพิ่มอีก 10% แลกไม่จำกัดครั้ง สูงสุด 500,000 คะแนน พิเศษ !! ผ่อนสบายรับลมหนาว ช้อปสินค้าในงานใช้ก่อน 2 เดือน ซื้อปีนี้…จ่ายปีหน้า 0% นาน 12 เดือน (เฉพาะบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์) หรือช้อปกับบัตรสินเชื่อที่ร่วมรายการ รับสิทธิ์ผ่อนแรง 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือน และช้อปสบายกระเป๋ากับสินเชื่อ Homepay ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง สมัครง่ายใช้แค่บัตรประชาชน อนุมัติไว ผ่อนง่าย ได้ทุกชิ้น!!

“โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์” ยังมาพร้อมดีลสุดฟิน ชวนต่อเติมบ้านครบครันรับปีใหม่นี้ ด้วยบริการมืออาชีพจาก “ช่างโฮมโปร ช่างประจำบ้าน” เลือกได้ไม่ว่าจะเป็น บริการปรับปรุงห้องนั่งเล่น จ่าย 1 ได้ถึง 4 บริการ พิเศษเพียง 1,700 บาท/ตร.ม. และบริการปรับปรุงห้องน้ำเหมายกห้อง 2 แพ็กเกจ Standard 8,400 บาท/ตร.ม. และ Premium เพียง 12,000 บาท/ตร.ม.

ส่งท้ายปีด้วยของขวัญความสุขให้พี่น้องคนเหนือ ได้ทั้งของใหม่… ได้ทั้งช่วยรักษ์โลก… ด้วยกัน ในแคมเปญ ‘แลกเก่า เพื่อโลกใหม่’ เพียงนำของเก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาจัดการอย่างถูกวิธี พร้อมแลกเป็นส่วนลดช้อปของใหม่ที่ร่วมรายการ รับส่วนลดสูงสุดถึง 5,000 บาท !! ที่งาน โฮมโปรเชียงใหม่ แฟร์ เท่านั้น พบกันวันที่ 16-24 ธันวาคม 2566 นี้ ทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่

JGAB 2024 เตรียมสานต่อความสำเร็จ เคาะวันจัดงาน 1-4 พ.ค. 2567 พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการจองบูธแล้ว วันนี้

Jewellery & Gem ASEAN Bangkok หรือ JGAB คือหนึ่งในงานแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับระดับโลก ที่เกิดขึ้นภายใต้เครือข่ายแบรนด์ผู้จัดแสดงสินค้า Informa Markets Jewellery โดยงาน JGAB 2023 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้มีจำนวนผู้ร่วมงานมากกว่า 7,000คน จาก 79ประเทศ ผู้ร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 400แบรนด์ รวมถึงสามารถสร้างเครือข่ายการค้าที่แข็งแกร่งผ่านการเจรจาจับคู่ธุรกิจมากกว่า 400ครั้ง ที่ต่างตอกย้ำถึงผลสำเร็จของการจัดงานและได้ผลักดันให้ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าใกล้ความเป็นศูนย์กลางตลาดอัญมณีโลกอย่างเป็นรูปธรรม

            ความสำเร็จของงาน JGAB จะได้รับการสานต่ออย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม ภายในงาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2024 (JGAB 2024) ในระหว่างวันที่ 1-4 พฤษภาคม 2567 บนทำเลใจกลางเมือง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีหมุดหมายสำคัญในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางรองรับตลาดอัญมณีและเครื่องประดับที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก อย่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย JGAB 2024 จะเป็นพื้นที่ช่วยยกระดับแบรนด์ของผู้จัดแสดงให้เติบโต ผ่านโอกาสในการได้จัดแสดงคอลเลคชันอัญมณีและเครื่องประดับออกสู่สายตาของผู้ซื้อที่มีศักยภาพจากทั่วโลก พร้อมโปรแกรมจับคู่เจรจาธุรกิจกับคู่ค้าคุณภาพที่ช่วยยกระดับมาตรฐานของแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งในงานยังมีการนำเสนอเทรนด์สินค้าและบริการ เทคโนโลยีการผลิตที่ดีที่สุด ตลอดจนแนวคิดสำหรับการพัฒนาธุรกิจแห่งอนาคต โดยผู้เชี่ยวชาญและนักสร้างสรรค์นวัตกรรมชั้นนำจากทั่วทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงกิจกรรมต่อยอดความรู้อีกมากมาย ตลอด 4 วันเต็ม

            โอกาสการเติบโตไปพร้อมกับงาน JGAB 2024 มาถึงแล้ว พร้อมให้ผู้ประกอบการได้ร่วมเปิดจองบูธเลือกทำเลที่ดีที่สุดให้ธุรกิจ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของงานเพื่อธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับระดับโลกได้แล้ววันนี้ ที่ https://bit.ly/46J3xIO

หรือดูรายละเอียดและติดข่าวสารเพิ่มเติม ได้ทาง

AION ES รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการขนส่งสาธารณะ กวาดยอดจองในงาน Motor Expo 2023 ไปแล้วกว่า 850 คัน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ประกาศยอดสั่งจองของ AION ES รถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด จาก บริษัท อีวี มี พลัส จํากัด บริษัทย่อยอรุณพลัส ของปตท. และบริษัท โกลด์ อินทิเกรท จำกัด ด้วยยอดสั่งจองแล้วกว่า 850 คัน โดยนายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) ร่วมกับคุณสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคุณจิระพงศ์ เลาห์ขจร ประธานเจ้าหน้าที่การพาณิชย์ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVME PLUS)  ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีครั้งนี้

“สำหรับ AION ES ที่ได้รับการสั่งจองเข้ามามากขนาดนี้ เราเชื่อมั่นว่า AION มีความพร้อมเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกนำมาใช้เป็นรถสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะในประเทศจีนอย่างแพร่หลาย และได้รับการยอมรับจากบริษัทผู้ให้บริการรถขนส่งสาธารณะ รวมถึงบริษัทแอปพลิเคชันเรียกรถขนส่งเป็นอย่างมากในด้านความทนทาน และเป็นที่รู้กันว่า “AION เป็นรถไฟฟ้าที่มีทนทานสูงและตอบโจทย์ในด้านการใช้งาน” ปัจจุบัน รถไฟฟ้า AION ที่ให้บริการในอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศจีน ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 40%” นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าว

“ลูกค้าที่เลือกซื้อรถ AION ES แล้วถึง 850 คัน เนื่องจากมีการอัปเกรดฟังก์ชันของตัวรถมากกว่า 10 รายการ หากเทียบกับ AION ES เวอร์ชันพื้นฐานที่ใช้ในประเทศจีน เช่น รูปลักษณ์ภายนอกและไฟหน้าอัจฉริยะ โดยเรานำเสนอ “ความเหนือกว่าอีกขั้นใน 6 ด้าน” แก่อุตสาหกรรมรถขนส่งสาธารณะของประเทศไทย ได้แก่ อีกขั้นของความสะดวกสบาย อีกขั้นของความเร็ว  อีกขั้นของความประหยัด อีกขั้นของความมั่นใจ อีกขั้นของความมืออาชีพ อีกขั้นของความใส่ใจ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าใช้งานของ AION ES ไปอีกขั้น” คุณสุวิชชา สุดใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVME PLUS) กล่าว

AION ES ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถซีดานไฟฟ้า สำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ (Taxi) ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดย AION ES ถูกออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทยโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศ

GAC AION ได้เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดย GAC AION ได้เดินหน้าลงทุนในประเทศไทยหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ การพัฒนาด้านการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขาย ปัจจุบัน AION อยู่ในช่วงขอการเตรียมก่อสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ EEC จังหวัดระยอง ด้วยยอดการลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท โดยโรงงานมีกำลังการผลิตสูงถึง 50,000 คัน/ปี ซึ่งโรงงานจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2567

ในส่วนของแผนการเปิดศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการ คาดว่าภายในปลายปี 2566 จะอนุมัติเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งหมด 50 แห่ง เพื่อมอบประสบการณ์และบริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

ในด้านบริการหลังการขาย GAC AION ก็มุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังขึ้นเป็นผู้นำด้านการบริการในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า GAC AION ได้เปิดให้บริการคลังอะไหล่ซึ่งสามารถจัดส่งอะไหล่ได้ทั่วไทยภายใน 24 ชั่วโมงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเสนอราคาอะไหล่ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค

ในเวลาเดียวกัน GAC AION มีแผนสร้างโครงข่ายสถานีชาร์จไฟ โดยคาดว่าจะสร้างสถานีชาร์จทั้งสิ้น 180 แห่ง ภายในปี 2567 เพื่อมอบความสะดวกสบายในการชาร์จไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งรวมถึงผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะในประเทศไทย

ด้วย AION ES รถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว GAC AION ได้มีส่วนร่วมในการช่วยผลักดันอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคแห่งพลังงานสะอาด โดยในอนาคต GAC AION จะยังคงมุ่งมั่นในการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ไอเท็มบ้าน ลดแรงส่งท้ายปี !! “HOMEPRO DOUBLE SALE 12.12” ช้อปเบิ้ลคุ้มๆ.. อัดแน่นลด+รับแรงส์ 5 วันเต็มๆ ห้ามพลาด!! 9-13 ธ.ค. 66 นี้

โอกาสที่ทุกคนจะได้ช้อปคุ้มเรื่องบ้านครั้งสุดท้ายของปี !! มาถึงแล้ว !! ร่วมส่งความสุขผ่านไอเท็มบ้านสุดปัง.. พร้อมเบิ้ลทุกสิทธิประโยชน์ กับ ‘HOMEPRO DOUBLE SALE 12.12’ มัดรวมทุกขีดสุดโปรแรงส์อัดแน่นให้ช้อปกันถึง 5 วันเต็มๆ พลาดไม่ได้ รีบด่วน!..

  • กดรับสิทธิ์คูปองส่วนลดสูงสุด 500 บาท ก่อนใคร ผ่าน HomePro Line Connect (เมื่อช้อปครบ 10,000.- ขึ้นไป จำกัด 1,500 สิทธิ์ต่อวัน)
  • แล้วไปจัดหนักสินค้าของตกแต่งบ้านในรายการ HOT DEAL รับส่วนลดสูงสุดถึง 50%
  • พร้อมใช้สิทธิ์คู่กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ช้อปครบรับเครดิตเงินคืน รวม 2 ต่อ
  • ต่อแรก ลด+รับเพิ่มสูงสุด 19% !! (สำหรับสมาชิกโฮมการ์ด รับส่วนลด 10% เมื่อช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร่วมรายการ 4 ชิ้นขึ้นไป + ลดเพิ่ม 3% เมื่อช้อปตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป และบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลด+รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 6%)
  • ต่อที่สอง คะแนนลดเพิ่มสูงสุด 23% (เมื่อใช้คะแนนโฮมการ์ด 1,000 คะแนน แลกรับส่วนลดอีกต่อได้ 100 บาท พร้อมแลกคะแนนในบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม เท่ายอดซื้อ ลดเพิ่ม 13%) !!
  • พิเศษ !! สำหรับสมาชิกบัตรสินเชื่อชั้นนำที่ร่วมรายการ รับสิทธิ์ผ่อนแรงส์ส่งท้ายปี ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือน !!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook: HomePro Thailand แล้วมาช้อปโคตรคุ้ม DOUBLE SALE 12.12 ครั้งสุดท้ายของปีที่โฮมโปรทุกสาขาและออนไลน์ ตั้งแต่ 9 ธ.ค. 66 – 13 ธ.ค. 66 นี้

โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวน “บอกรักพ่อดัง..ดัง”ด้วยพลังแห่งสุขภาพดี

โรงพยาบาลพระรามเก้า ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคยากซับซ้อนและการดูแลสุขภาพก่อนป่วยมากว่า 31 ปี ชวนลูกๆ บอกรักคุณพ่อ ด้วยการมอบสุขภาพดี เป็นของขวัญสำหรับพ่อ ด้วย “แพ็กเกจ บอกรักพ่อ” โปรแกรมตรวจสุขภาพแบบพรีเมี่ยม กับแพ็กเกจสุขภาพดีที่คัดมาเพื่อต้อนรับเทศกาลวันพ่อโดยเฉพาะ ครอบคลุมหลากหลายทุกปัญหาสุขภาพกวนใจคุณพ่อ ในราคา 1,900 – 3,800 บาท อาทิ
• แพ็กเกจตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง มีให้เลือกทั้ง ตรวจช่องท้องส่วนบน, ส่วนล่าง และ ตรวจช่องท้องทั้งหมด
• แพ็กเกจตรวจสุขภาพตับด้วยคลื่นเสียง (Fibroscan)
• แพ็กเกจตรวจสุขภาพตาแบบพรีเมี่ยมโดยจักษุแพทย์ อาทิ ตรวจการมองเห็น วัดสายตาด้วยคอมพิวเตอร์ วัดความดันลูกตา ตรวจสแกนขั้วประสาทตาและจุดรับภาพด้วยเลเซอร์ ตรวจตาบอดสี ตรวจวิเคราะห์เซลล์กระจกตา เป็นต้น
• แพ็กเกจตรวจหูอย่างละเอียด ทั้งตรวจสรรถภาพการได้ยิน ตรวจช่องหูด้วยกล้องจุลทรรศน์ พร้อมทำความสะอาดหู
มาบอกรักพ่อให้ดังก้องใจ เพียงคลิก https://hubs.li/Q02bBLz40 พร้อมรับ E-coupon ได้ทันทีทาง SMS พร้อมเปิดประวัติและทำนัดหมายด้วยตนเองได้ตั้งแต่ที่บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน ลดระยะเวลาในการอยู่ที่โรงพยาบาล หรือจะส่งต่อแพ็กเกจตรวจสุขภาพเป็นของขวัญแก่คนที่คุณรักได้เลยทันที
ซื้อแพ็กเกจและสามารถเข้ารับบริการได้จนถึงวันที่ ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 (ราคาดังกล่าว รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว) สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลพระรามเก้า Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ@praram9hospital และทาง Facebook: Praram9Hospital หรือ โทร. 1270 #แพ็กเกจตรวจสุขภาพ #วันพ่อแห่งชาติ #ของขวัญวันพ่อ #Praram9Hospital
กรณีซื้อแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการของท่าน โปรดปฏิบัติตามเงื่อนไข และข้อกำหนดการเข้ารับบริการ